วันอังคารที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2556


วอล์คแมนกันน้ำ - ฉลาดใช้



จะบอกว่า เป็นความสะใจก็ว่าได้ เพราะสามารถว่ายน้ำ แล้วฟังเพลงจากเครื่องเล่นเพลงส่วนตัวได้

       

แม้ฝนจะตกทุกวัน แต่หลังเลิกงานก็มักจะแวบไปออกกำลังกายเป็นประจำ หนึ่งในกิจกรรมกลางแจ้งที่ชอบมากก็คือ ว่ายน้ำ  บางทีเวลาว่ายกลับไปกลับมาในสระ มันก็น่า เบื่อ ถ้ามีเสียงเพลงจากขอบสระมากระตุ้น รู้สึกว่าสโตรกจะดีขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ค่อยจะอู้

เคยคิดเหมือนกัน น่าจะมีเครื่องเล่นเพลงดิจิทัลที่กันน้ำได้ เพื่อบำบัดอาการขี้เกียจขณะออกกำลังกาย

เมื่อสองสามสัปดาห์ก่อน โซนี่ ประเทศไทย เอาวอล์คแมน รุ่น ดับเบิลยูซีรีส์มายั่วเงินในกระเป๋ามาก ตอนแรกก็รู้สึกเฉย ๆ แต่พอแกะกล่องใช้งานต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ เพราะเค้ายืนยันว่า รุ่นนี้กันน้ำได้ ลึกถึง 2 เมตร เหมาะมากกับสระว่ายน้ำ
      
แต่ไม่แนะนำให้เอาไปใช้กับน้ำทะเล ซึ่งมีทั้งเกลือและทรายจะทำให้อุปกรณ์เสียหายได้

โซนี่ วอล์คแมน ดับเบิลยูซีรีส์  เอ็นดับเบิลยูแซด-ดับเบิลยู 270 เรียกสั้น ๆ ว่า วอล์คแมน ดับเบิลยูซีรีส์ แล้วกันนะคะ  เป็นเครื่องเล่นเพลงดิจิทัล ความจุ 4 กิกะไบต์ มีสีขาว ดำ ฟ้า และชมพู

วอล์คแมนรุ่นนี้ ออกแบบให้ไร้สาย และเบามาก ประมาณ 29 กรัม ตัวเครื่องเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีสายคล้องไว้รอบศีรษะ น้ำหนักเบาแทบจะไม่รู้สึกว่ากำลังฟังเพลงจากวอล์คแมน ในกล่องจะมีชุดยาง
ปรับขนาดหูฟังให้เลือกขนาดที่เหมาะกับหูของเรา เวลาใส่จะได้กระชับ ไม่เลื่อนหลุด พร้อมกล่องสำหรับเก็บวอล์คแมน ซึ่งมีเทคนิคการเก็บทำตามคู่มือแสดงเป็นรูปภาพแค่สองสามครั้งก็เป็นแล้ว

เป็นจุดเด่นของผลิตภัณฑ์โซนี่ ที่มักจะใส่ใจเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น กล่องเก็บ วิธีการเก็บ เป็นต้น

แค่สายชาร์จก็ยังกะอุปกรณ์จากหนังสตาร์วอร์ส เป็นทั้งแท่นชาร์จและยูเอสบีสำหรับลากไฟล์เพลง เวลาจะใช้ก็เชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านพอร์ตยูเอสบี

ปกติแล้วจะใช้เวลาชาร์จไฟถ้ารอจนเต็มประมาณชั่วโมงครึ่ง ก็จะฟังเพลงต่อเนื่องได้นาน 8 ชั่วโมง  แต่หากแบตเตอรี่เกลี้ยง ไม่มีเวลาชาร์จนานเป็นชั่วโมง ก็สามารถชาร์จแบบเร่งด่วนได้ ใช้เวลาแค่ 3 นาที ก็ฟังเพลงได้ประมาณ 1 ชั่วโมง พอแก้ขัดได้

ที่ชอบก็คือ การจัดการไฟล์ไม่จำเป็นต้องไปผ่านระบบกลางให้ยุ่งยาก เพราะเป็นแบบลากและวาง ก็ได้ฟังเพลงจากไฟล์ดิจิทัลแล้ว

ตอนแรกก็กังวลว่า โซนี่จะอ่านได้ทุกไฟล์มั้ย เพราะรุ่นก่อน ๆ ทำไม่ได้ แต่รุ่นใหม่ทำได้ ใส่ไฟล์เสียงประเภทไหนลงไปก็อ่านได้หมด

รูปแบบไฟล์เสียงที่รองรับได้ ทั้งเอ็มพี 3 บิทเรตตั้งแต่ 32-320 kbps ไฟล์ ดับเบิลยูเอ็มเอ บิทเรต 32-192 kbps

ถ้าชอบออกกำลังกาย มีกิจกรรมกลางแจ้งแบบผู้เขียน หรืออยากได้เครื่องเล่นเพลงดิจิทัลสไตล์ไม่เหมือนใคร วอล์คแมนดับเบิลยูซีรีส์ น่าใช้มาก ถ้าใช้ในสระว่ายน้ำเหมือนได้อุปกรณ์กันน้ำเข้าหูมาพร้อมเสียงเพลง แต่อย่ามัวเพลินกับเสียงเพลง ไม่งั้นอาจว่ายไปชนเพื่อนร่วมสระได้

ขออภัยที่ไม่สามารถเอาภาพถ่ายในสระมาให้ดูได้ เพราะไม่รู้จะให้ใครถ่ายให้

อาจมีคำถามว่า ถ้าใส่วิ่งออกกำลังกาย จะหลุดให้เกะกะรำคาญมั้ย ยืนยันว่าไม่หลุด เพราะเวลาเหงื่อออกจะกระชับกว่าเดิม

หลายคนอาจจะแย้งว่า โทรศัพท์มือถือก็ใช้เก็บไฟล์เพลงและฟังได้ อันนี้ไม่เถียง แต่ถ้าต้องการเครื่องเล่นเพลงดิจิทัลที่มีความแตกต่าง ต้องการคุณภาพเสียงที่ดีขึ้น มีคุณสมบัติใช้งานเฉพาะทาง ก็ต้องมองหาวอล์คแมนแบบนี้

ราคาก็แพงใช้ได้อยู่  จ่ายสามพันบาททอนสิบบาท.

ปรารถนา ฉายประเสริฐ
prathana.chai@gmail.com

มือใหม่ ใช้สมาร์ทโฟน - 1001


โทรศัพท์ฉลาด มีส่วนแบ่งในตลาดเพิ่มขึ้นทุกที เป็นการเปลี่ยนยุคของการใช้โทรศัพท์มือถือ หลายคนที่สนใจโทรศัพท์ฉลาด อยากลองใช้บ้าง พี่สาวของผม ซึ่งเดิมไม่ชอบใช้ของไฮเทค ก็เปลี่ยนใจมาใช้ พอใช้คล่องแล้วก็ไม่กลับไปใช้โทรศัพท์มือถือธรรมดาอีกเลย บอกว่าใช้แบบเดิมไม่เป็นเสียแล้ว ดูราวกับว่ามีมนต์ขลังอะไรบางอย่าง ผูกใจผู้ใช้โทรศัพท์ฉลาดอยู่อย่างนั้น มาดูกันว่า การใช้โทรศัพท์ฉลาดนั้น ง่ายหรือยากอย่างไร
การใช้งานห้าอย่างยอดนิยมของโทรศัพท์ฉลาดคือ เล่นเน็ต ตอบอีเมล ใช้แอพ (โปรแกรมเสริม) ถ่ายรูป และสุดท้ายใช้โทร (และเอสเอ็มเอส) สามอย่างแรกยุ่งเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ต สิ่งแรกที่ต้องรู้ คือ โทรศัพท์ฉลาดต่ออยู่กับอินเทอร์เน็ต ผู้ให้บริการโทรศัพท์ ให้บริการอินเทอร์เน็ตแก่โทรศัพท์โดยผ่าน 3จี คิดค่าบริการตามปริมาณข้อมูล นอกจากนั้น โทรศัพท์ฉลาดยังต่อเน็ตผ่านไวไฟได้ บริการอินเทอร์เน็ตผ่านไวไฟ เห็นอยู่สามแบบ คือ ในที่ทำงาน (หรือสถานศึกษา) บริการเอกชน (ต้องจ่ายเงิน) และ อินเทอร์เน็ตที่บ้าน (เช่น มาพร้อมกับสายโทรศัพท์) เนื่องจากค่าบริการอินเทอร์เน็ตมีหลากหลาย เรามักเลือกใช้ให้เหมาะกับราคา ใช้ผ่านไวไฟ มักมีความเร็วสูงกว่า 3จี และราคาถูกกว่า ใช้ผ่าน 3จี ไปได้เกือบทุกที่จึงสะดวกกว่าเราสามารถตั้งโทรศัพท์ให้ใช้แบบใดก็ได้ เพื่อความประหยัด
เรื่องที่สองคือ โทรศัพท์ฉลาด ผูกพันกับผู้ผลิตซอฟต์แวร์ของเครื่อง นั่นก็คือสามค่ายใหญ่ กูเกิล แอปเปิล และไมโครซอฟท์ ดังนั้น การเลือกค่ายจึงมีผลต่อการใช้งาน คือ การตั้งเครื่องต่างกัน บริการที่มีให้ต่างกัน ชนิดของแอพ และ รูปลักษณ์การใช้งานบนจอ ก็ต่างกันไป เราต้องมี “บัญชี” กับค่ายเหล่านี้ก่อน จึงสามารถ “เปิด” บริการใช้โทรศัพท์ฉลาดได้ วิธีสร้างบัญชีคือการไป “สมัคร” ให้ข้อมูลส่วนตัว ค่ายใครค่ายเขา เช่น กูเกิลก็ต้องมีบัญชีจีเมล แอปเปิลก็ต้องมี Apple ID ซึ่งต้องให้ข้อมูลบัตรเครดิต ไมโครซอฟท์ มีบัญชีฮอตเมล เมื่อเปิดบริการแล้วจึงจะเอาไปโหลดแอพเพิ่มเติม หรือซื้อของต่าง ๆ เช่น เพลง และเกมต่าง ๆ ได้ การเปิดบัญชีและบริการพื้นฐานทั้งหมดฟรีครับ คือ เล่นเน็ต ตอบอีเมล เก็บข้อมูล ดูแผนที่ แต่อย่าลืมว่าต้องเสียค่าอินเทอร์เน็ต การสมัครเข้าค่ายนี้ ทำบนโทรศัพท์เลยก็ได้ แต่ทำบนคอมพิวเตอร์จะสะดวกกว่า
การสมัครและกรอกข้อมูลต่าง ๆ ควรทำเอง และจดชื่อผู้ใช้ (username ซึ่งเราตั้งเอง) กับรหัสผ่านไว้ในสมุดเล็ก เก็บแยกไว้ด้วย ในอนาคตเราต้องกลับมาดูอีก ที่ควรทำเอง ไม่แนะนำให้ที่ร้านทำให้เพราะเป็นข้อมูลส่วนตัว และพัวพันถึงเรื่องเงิน ไม่ปลอดภัยที่จะให้ผู้อื่นรู้ อีกทั้งเราต้องจำ และจดชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านเป็นความลับด้วย ไม่ทำเองเดี๋ยวจำไม่ได้
เรื่องที่สาม การใช้โทรศัพท์ฉลาดคือการใช้บริการต่าง ๆ ที่มีบนอินเทอร์เน็ต ทั้งโดยตรงจากค่าย (ที่ให้บริการเฉพาะระบบของตัวเอง) และบริการสาธารณะ (ระบบไหนก็ใช้ได้) อย่างแรกสุดที่ต้องรู้คือ ข้อมูลพื้นฐาน เช่น รายชื่อผู้คน และปฏิทินนัดหมาย แต่เดิมอยู่ในแผ่นซิม หรืออยู่ในเครื่องโทรศัพท์ พอโทรศัพท์หาย ข้อมูลก็หายไปด้วย ผมเจอเหตุการณ์นี้มาสองครั้ง ครั้งแรกเครื่องหาย ไปลืมไว้ที่ตลาด กลับไปหาไม่เจอ ครั้งที่สองถูกขโมย การที่ข้อมูลหายนับเป็นโชคดีของผม แต่เป็นโชคร้ายของคนที่ทำงานกับผมเพราะติดต่อผมไม่ได้ (ปกติผมไม่ค่อยติดต่อคนอื่น มีแต่คนมาทวงงาน) และตารางนัดหมายหายไปหมด ผมเลยถือเสียว่าไม่มีงาน พักผ่อนตามสบาย (ภรรยาโกรธแทบตาย) เมื่อมีโทรศัพท์ฉลาดแล้ว ข้อมูลรายชื่อและปฏิทินจะถูกสำเนาอัตโนมัติไปยังผู้ให้บริการค่ายของเรา (เมื่อต่อเน็ต) พอโทรศัพท์หายหรือเปลี่ยนเครื่องใหม่ เพียงแค่ลงชื่อเข้าใช้ใหม่ ข้อมูลก็จะกลับคืนมาหมด นี่เป็นความวิเศษอย่างยิ่ง (ผมเลยหมดข้ออ้างผัดผ่อนงาน)
เรื่องที่สี่ ความเป็นส่วนตัว โทรศัพท์ฉลาดผูกกับ “บัญชี” ของเรามาก รวมถึงการจ่ายเงินด้วย (จำได้ไหมว่า ค่ายแอปเปิลขอเบอร์บัตรเครดิตไว้ด้วย) ควรพึงระมัดระวังมากกว่าการใช้อินเทอร์เน็ตทั่วไป เพราะมีข้อมูลส่วนตัวมากมายจำอยู่ในโทรศัพท์ รวมถึงที่ต้องไปลงทะเบียนไว้บนอินเทอร์เน็ตเพื่อขอใช้บริการต่าง ๆ โทรศัพท์ฉลาดบอกกระทั่งตำแหน่งที่เราอยู่ ปีที่แล้วผมมี “เซอร์ไพร้ส์” มาจากเฟซบุ๊ก เขาส่งข้อมูลว่าผมเดินทางไปไหน เมื่อไร ทั้งปี มาให้ดู รวมทั้งข้อเสนอขายตั๋วเดินทางราคาพิเศษ! ที่ผมประหลาดใจก็เพราะว่าผมไม่เคยเปิด “ข้อมูลตำแหน่ง” ด้วยซ้ำไป (เปิด-ปิดในโทรศัพท์ได้) แต่เนื่องจากผมไปใช้ไวไฟในที่ต่าง ๆ หลายประเทศที่เดินทางไป และติดต่อกับครอบครัวโดยเฟซบุ๊ก ผู้ให้บริการเลยรู้ที่อยู่ผมจากตำแหน่งไวไฟนั่นเอง นอกจากนี้ ถ้าใครมีชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านของเราก็สามารถใช้ “ทุกอย่าง” ของเราได้หมด (รวมทั้งเงินในบัตรเครดิต) จึงต้องระวังเรื่องความเป็นส่วนตัวนี้ ในอนาคตจะมีได้น้อยลงเรื่อย ๆ เพราะระบบไอทีบังคับ การให้ข้อมูลใด ๆ ในบริการบนอินเทอร์เน็ต ขอให้สังวรไว้ด้วยว่าควรให้เท่าที่จำเป็นจริง ๆ เท่านั้นพอ
โทรศัพท์ฉลาดน่าใช้หรือไม่ ต้องบอกว่าสำหรับคนที่ใช้แชตกับเพื่อน อยู่กับสังคมออนไลน์ อ่านข่าวนิดหน่อย ถ่ายรูปแปะไว้ให้คนอื่นดู หรือคนทำงานที่ต้องติดต่อโดยอีเมลบ่อย ๆ และมีการนัดหมายงาน ใช้โทรศัพท์ฉลาดสะดวกมากครับ ถึงแม้ว่าผมจะทำสิ่งเหล่านี้ได้ด้วยคอมพิวเตอร์ทั้งที่ทำงานและที่บ้าน แต่โทรศัพท์ฉลาดนั้นสะดวกกว่ามาก พกติดตัวตลอดเวลา เปิดปุ๊บติดปั๊บ
สิ่งที่ผมใช้น้อยที่สุดในโทรศัพท์ฉลาดคือโทรคุยครับ แต่มีเรื่องเล่าชวนคิดอยู่เรื่องหนึ่ง เมื่อต้นปี ผมซื้อโทรศัพท์ฉลาดสุดล้ำ โอ่อ่าตระการตา สีถูกใจ ไปให้พี่ชายเป็นของขวัญตรุษจีน โดนพี่ชายด่าครับ ว่า ชีวิตฉันสบายดีอยู่แล้ว อย่าเอาโทรศัพท์อย่างนี้มาทำให้ชีวิตลำบาก ก็มีส่วนจริงเหมือนกันนะครับ
เดือนหน้าจะเป็นช่วงเวลา “ออกของใหม่” ของโทรศัพท์มือถือทุกยี่ห้อมาแข่งกัน เพื่อชิงลูกค้าในเทศกาลปลายปี ดังนั้นอีกสองสามเดือนข้างหน้าจะมีสินค้าใหม่มาให้เลือกมากมาย ซื้อรุ่นใหม่ล่าสุดก็จะราคาแพง ถ้าซื้อรุ่นเก่าแล้วหนึ่งปีก็จะราคาถูกลงมาก ซื้อโทรศัพท์ฉลาดเลือกที่จอใหญ่ ๆ จะสบายตามากนะครับ เพื่อนร่วมงานของผมคนหนึ่งซื้อโทรศัพท์จอแปดนิ้ว เลย แต่เธอใส่ในกระเป๋าถือ พวกผู้ชายพกใส่กระเป๋ากางเกงจึงเลียนแบบไม่ได้ครับ.
ศ.ดร.ประภาส จงสถิตวัฒนา
ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
คณะวิศวกรรมศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เทรนด์รุกตลาดความปลอดภัยบนคลาวด์

เทรนด์ไมโครจับมือเอสไอเอส รุกตลาดรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ หลังคนนิยมใช้คลาวด์มากขึ้นและเป็นเป้าโจมตีของอาชญากรไซเบอร์ ตั้งเป้ายอดขายโซลูชั่นคลาวด์ซิเคียวริตี้เพิ่มขึ้น 20%
นายวิลเลี่ยม ตัน ผู้จัดการประจำประเทศไทยและภูมิภาคอินโดจีน บริษัท เทรนด์ไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากรายงานของบริษัทวิจัยข้อมูลเทคนาวิโอ ประเทศสหรัฐอเมริกาคาดว่า ในปี 2557 ตลาดซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยสำหรับระบบคลาวด์หรือคลาวด์ซิเคียวริตี้ทั่วโลก จะมีมูลค่าประมาณ 963.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐทั้งนี้ ตลาดดังกล่าวมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของการใช้ระบบคลาวด์ในการจัดเก็บข้อมูลที่สำคัญ รวมถึงการเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วของอาชญากรไซเบอร์ที่พุ่งเป้าโจมตีไปที่ระบบคลาวด์โดยเฉพาะ
ล่าสุดเทรนด์ไมโคร (ประเทศไทย) ร่วมกับบริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) รุกตลาดคลาวด์ซิเคียวริตี้ครึ่งปีหลัง โดยเปิดตัวโซลูชั่น “เทรนด์ไมโคร ดีพ ซิเคียวริตี้ 9” โซลูชั่นแรกที่มีคุณสมบัติเด่นด้านการปกป้องบนระบบเสมือนของวีเอ็มแวร์ โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งเอเจนท์ สามารถครอบคลุมครบทั้งระบบป้องกันการบุกรุก ระบบตรวจสอบความสมบูรณ์ของระบบ รวมถึงทำการปรับแต่งระบบเสมือนจริงได้โดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสใด ๆ เพิ่มเติมระบบดังกล่าวสามารถนำไปปรับใช้ร่วมกับระบบคลาวด์แบบเปิด และไฮบริดจ์ได้ เสริมความคล่องตัวและประหยัดค่าใช้จ่าย ช่วยให้กลุ่มลูกค้าองค์กรสามารถปรับขยายศูนย์ข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้จากความร่วมมือของทั้งสองบริษัทคาดว่าจะสามารถผลักดันยอดขายในส่วนของคลาวด์ซิเคียวริตี้ให้เพิ่มขึ้นได้ประมาณ 20%.



Skype กำลังพัฒนาวีดีโอแชทแบบ 3D

เนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปีของโปรแกรม Skype ผู้บริหารของไมโครซอฟท์ได้ออกมาให้ข้อมูลกับทาง BBC ว่า ขณะนี้บริษัทกำลังดำเนินการพัฒนาความสามารถของ Skype ให้รองรับการทำงานร่วมกับเทคโนโลยี 3D ซึ่งในตอนนี้ทีมงานได้มีการทดลองร่วมกับอุปกรณ์อย่างจอแสดงผลแบบ 3D กับกล้องวีดีโอจับภาพ 3D ไปบ้างแล้ว แต่อาจต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าที่โปรแกรม Skype ที่รองรับวีดีโอแชทแบบ 3D จะพร้อมออกสู่ตลาด นอกจากนี้การที่ Skype 3D จะให้บริการวิดีโอแชทแบบ 3D ได้นั้น ตัวกล้องที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์จำเป็นต้องมีประสิทธิภาพกว่าปกติเพื่อความแม่นยำในการตรวจจับตำแหน่งสำหรับการสร้างภาพ 3D ได้อย่างถูกต้อง
ฉะนั้นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อย่างโน๊ตบุ๊ค, แท็บเล็ต หรือแม้กระทั่งสมาร์ทโฟนก็จำเป็นต้องได้รับการพัฒนาเรื่องเทคโนโลยีเพื่อให้รองรับกับการใช้วีดีโอแชทแบบ 3D จากโปรแกรม Skype ในอนาคตด้วย แต่ Skype รูปแบบใหม่ไม่รู้ว่าตอนใช้งานต้องสวมแว่นตา 3D ไว้ด้วยตลอดรึเปล่า

วันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ทำความรู้จัก Google Glass คืออะไรทำอะไรได้บ้าง


Google Glass คือแว่นตาที่ผสมเทคโนโลยีใหม่ทันสมัย

Google พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ให้ได้เห็นอยู่เสมอ ล่าสุดได้พัฒนา แว่นตาที่เรียกว่า Google Glass ขึ้นมาและจะ เริ่ม วางจำหน่ายที่สหรัฐอเมริกาในปีหน้า 2014 หลายท่านอาจได้เห็นข่าวตามหนังสือพิมพ์หรือ Internet บ้างแล้ว หลายท่านอาจยังสงสัยว่า มันคืออะไรและทำอะไรได้บ้าง ถ้าให้พูดง่ายๆ มันคือ แว่นตาชนิด หนึ่ง ที่มีความพิเศษมหัศจรรย์ โดยใส่เทคโนโลยีเพิ่มเข้าไป ทำให้แว่นตาสามารถทำหน้าที่ได้หลายอย่าง แบบไม่น่าเชื่อ เรียกไว้ว่าเป็นแว่นตาคอมพิวเตอร์ก็ได้ เพราะมันทำได้หลายอย่างเหมือนคอมพิวเตอร์ทำได้เลย

แว่นตากูเกิ้ลทำงานอย่างไร

จากข้อมูล blog ของ Google คาดว่าแว่นตาชนิดนี้ส่วนการแสดงผลน่าจะทำแบบจอ LCD หรือ Amoled ในหน้าจอแสดงผลจะมีข้อมูลต่างๆให้ผู้สวมใส่รับรู้ข้อมูลผ่านหน้าจอนี้ เมื่อต้องการสั่งงานการคลิกทำโดยการ เอียงศรีษะ นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถพูดสั่งออกมาเป็นคำสั่งได้ด้วย

ข้อมูล ตัวเครื่อง Google Glass

The New York Tmies สื่อต่างประเทศรายงานว่า ในตัว Google Glass ใช้ระบบปฏิบัติการ Android, ด้านหน้ามีหน้าจอแสดงผลเล็กๆ หน้าจอนี้มีตัวตรวจจับการเคลื่อนไหว, การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตมี GPS, และระบบ 3G หรือไม่ก็ 4G, มี Wi-Fi และ Bluetooth หลายๆฟังชั่น ของ Google Glass เหมือนกับระบบ Smartphone รุ่นใหม่ สามารถเชื่อมต่อส่งข้อมูลกันได้ ผ่านทาง Wi-Fi หรือ Bluetooth 4.0, ด้านหน้ามีกล้องสำหรับถ่ายภาพและวีดีโอ



Google Glass ทำอะไรได้บ้าง

จากคลิป video ด้านบน หากได้เปิดดูจะเห็นว่าเมื่อสวมใส่แว่นตานี้แล้ว ผู้สวมใส่เหมือนจะกลายเป็น ผู้รับรู้เหตุการณ์สถาณการณ์ต่างๆที่ต้องการได้ โดยจะมี ผู้ช่วยแสดงอยู่ขอบหน้าจอเล็กๆคอยบอกข้อมูลต่างๆ อย่างเช่นผู้ใส่แว่นตาจะ ลงไปสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน แต่แว่นตาบอกว่าขณะนี้มันปิดอยู่, ผู้ใส่แว่นถามหาจุดที่วางหนังสือสอนกีตาร์แว่นตา ก็บอกตำแหน่งให้เดินไปหยิบได้อย่างถูกต้อง, Video chat กับเพื่อนๆ และอีกมากมาย